วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558


Review : Bangkok Mini Maker Faire




                  งาน Bangkok Mini Maker Faire จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 - 27 กันยายน 2558 สถานที่จัดงานคือลานหน้าร้าน Hard Rook Cafe สยามสแคร์ โดยตัวงานจะแบ่งออกเป็น 2 โซน

                  โซนแรก เป็นงานจัดแสดงผลงานของหน่วยงานต่างๆ และโชว์ผลงานของนิสิตนักศึกษามาชมภาพบบรยายกาศกันค่ะ

- เปียโนล่องหน ของ ดร.หมอน ถ้าเราไปเหยียบโดนเซนเซอร์ก็จะมีเสียงตัวโน๊ตดังขึ้นมา





- Phuket Maker Club เป็นรถส่งกาแฟ โดยจะวิ่งตามเส้นทางสีดำ

 




- FabCafe Bangkok  บูธนี้เป็นการปั่นเพื่อกิน โดยจะปั่นจักรยานพร้อมกับทำน้ำแข็งใสไปด้วย





- หุ่นยนต์เต้นตามคน จาก ThaiEasyElec  จะมีเครื่อง Kinect จับเซนเซอร์ของคนแล้วหุ่นยนต์จะเต้นตาม




และยังมีบูธอี่นอีกมากมาย เช่น

- เครื่องวาดรูป






- เครื่องปริ้น 3 มิติ



- ผลงานของเครื่องปริ้น 3 มิติ




                   โซนที่สอง เป็นส่วนของ WorkShop โดยจะมีการให้ทดลองทำผลงานออกมาจริง 

Workshopที่ได้ทำนั้นคือ Wearable Electronics เป็นการใส่แสงไฟลงไปบนผ้า 

วิธีทำคือ เย็บวงจรติดไปบนกระเป๋าผ้า และเส้นด้ายจะทำหน้าที่นำกระแสไฟฟ้า 



เมื่อทำเสร็จแล้วจะได้ผลงานออกมาอย่างดี เย้ๆ ^___^

ขอจบการ review เพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณค่าาาาา






วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558


Internet Of Things




Internet of Things

Internet Of Things หรือ IOT คือ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่ออุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆโดยที่สื่อสารกันได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ในอนาคต ผู้บริโภคจะเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆได้ทั้งจากในบ้านหรือที่ไหนก็ได้ เช่น การควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน การเปิดปิดไฟ



Manufacturing

ด้านโรงงานการผลิต (Manufacturing) คืออุตสาหกรรมเครื่องจักและโรงงานการผลิต ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมแรกๆที่ได้ประยุกต์ใช้กับ IOT
ซึ่งทำให้การดำเนินงานประจำวันทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและฉลาดมากยิ่งขึ้นโดยจะต้องมีการเชื่อมต่อเซนเซอร์ IOT เข้าสู่กระบวนการและระบบธุรกิจด้วย



เครื่องผลิตขนมปัง ในฮาวายได้ติดตั้งเทคโนโลยีนี้ทำให้สามารถได้รับผลผลิตที่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และทำให้พนักงานมีความสามารถในการเข้าถึงสถิติย้อนหลัง
และข้อมูลปัจจุบันได้ทันที เนื่องจากระบบนี้ถูกเชื่อมต่อโดยอินเตอร์เน็ตดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมแลจัดการได้จากระยะไกลจากศูนย์ปฎิบัติงานส่วนกลาง




http://www.entrepreneur.com/article/241001




วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558


Proximity sensor

เซนเซอร์แบบเหนี่ยวนำ  




          เป็นเซนเซอร์ที่ใช้ในการตรวจจับตำแหน่ง ระดับและรูปร่างของวัตถุ ซึ่งระยะตรวจจับที่ต้องการ โดยปกติ ระยะตรวจจับสูงสุดอยู่ที่ 40mm หรือน้อยกว่า โดย Proximity สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องสัมผัสกับชิ้นงานหรือวัตถุภายนอก โดยลักษณะของการทำงานจะส่งหรือรับพลังงานอย่างใดอย่างหนึ่งในพลังงานดังนี้ สนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า แสง เสียงและสัญญาณลม


ส่วนประกอบหลักของเซนเซอร์แบบเหนี่ยวนำ

          1) วงจรกำเนิดคลื่นความถี่สูง (Oscillator)

          2) วงจรหรือส่วนของการประมวลผล (Evaluator)

          3) วงจรแยกสภาวะและสั่งงาน (Trigger)

          4) หลอดไฟแสดงสภาวะในการทำงาน (Status Display)

          5) วงจรขยายสัญญาณและป้องกันด้านเอาต์พุต (Output with protective circuit)

          6) แหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้าจากภายนอก (External voltage)

          7) วงจรรักษาระดับแรงดันภายในให้คงที่ (Internal constant voltage supply)

          8) ส่วนหรือพื้นที่ ที่ใช้ในการตรวจจับซึ่งมีขดลวดอยู่ภายใน (Active zone : coil)

          9) เอาต์พุตของเซนเซอร์ ซึ่งในที่นี้จะเป็นแบบทำงานหรือไม่ทำงาน (On-Off)


ระยะห่างในการตรวจจับจะขึ้นอยู่กับตัวแปร 

  • ขนาดของขดลวดเซ็นเซอร์

           - ขนาดของตัวเซ็นเซอร์
           - ยิ่งขนาดของเซ็นเซอร์มีขนาดใหญ่ ระยะการตรวจจับก็จะยิ่งไกลขึ้น
  • รูปแบบของหน้าสัมผัสของเซ็นเซอร์

          - แบบหัวเรียบ จะมีระยะตรวจจับที่สั้นกว่า
          - แบบหัวยื่น จะมีระยะตรวจจับที่ไกลกว่า


ค่าแฟกเตอร์ของวัตถุ


วัตถุ

ระยะการตรวจจับ

เหล็กอ่อน (Fe360)

1.00 x อัตราระยะตรวจจับ

สแตนเลส สตีล

0.80 x อัตราระยะตรวจจับ

อะลูมิเนี่ยม

0.40 x อัตราระยะตรวจจับ

ทองเหลือง

0.40 x อัตราระยะตรวจจับ

ทองแดง

0.35 x อัตราระยะตรวจจับ






References : 



วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

เปรียบเทียบระหว่าง Arduino Uno  และ  Beaglebone green


 Arduino Uno      







   Beaglebone green



 Overview   ลักษณะ

Arduino : บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์แบบ Open-source บนแพลตฟอร์ม Arduino ของแท้จากผู้ผลิต arduino.cc ประเทศอิตาลี ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย เขียนโปรแกรมบนซอฟท์แวร์ Arduino IDE และโปรแกรมผ่านพอร์ต USB เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นเรียนรู้การพัฒนาไมโครคอนโทรลเลอร์หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่เคยเรียนรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์มาก่อนก็สามารถนำมาสร้างต้นแบบที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ได้ 
           
Beaglebone green : เป็นการพัฒนามาจาก Beaglebone black แต่ได้มีการเพิ่มช่อง Grove สำหรับติดต่อ และได้มีการลบ HDMI ออกทำให้สามารถเชื่อมต่อกับ Grove sensors ได้ง่ายขึ้น ยังมีการปรับปรุงบาร์เรล 5V เพื่อโฮสต์ USB Micro

  
 Price  ราคา

Arduino : ราคาประมาณ $29.95  

Beaglebone green : มีราคาประมาณ $89 



·      Technical Details  รายละเอียดทางเทคนิค


Arduio Uno :
        
Microcontroller
Operating Voltage
5V
Input Voltage (recommended)
7-12V
Input Voltage (limit)
6-20V
Digital I/O Pins
14 (of which 6 provide PWM output)
PWM Digital I/O Pins
6
Analog Input Pins
6
DC Current per I/O Pin
20 mA
DC Current for 3.3V Pin
50 mA
Flash Memory
32 KB (ATmega328P)
of which 0.5 KB used by bootloader

SRAM
2 KB (ATmega328P)
EEPROM
1 KB (ATmega328P)
Clock Speed
16 MHz
Length
68.6 mm
Width
53.4 mm
Weight
25 g
      

Beglebone green :

Microcontroller
AM335x 1GHz ARM® Cortex-A8
Clock Speed
700MHz
Ram
512MB
Flash
4GB(microSD)
Input Voltage
5v
MinPower
170mA(.85w)
Digital GPIO
66
Analog Input
7 12-bit
PWM
8
GPU
3D graphics accelerator




Software Compatibility ระบบปฏิบัติการและภาษา 

Arduino : ไม่สามารถลง OS ได้

Beaglebone green : Debian , Android , Ubuntu , Cloud9 IDE on Node , Support much more



Connectivity การเชื่อมต่อ


Arduino : เชื่อมต่อได้เพียง usb

Beaglebone green : USB client for power & communications , USB host , Ethernet , 
2x Grove , 2x 46 pin headers




References : 

www.arduino.cc

www.seeedstudio.com

beagleboard.org/green

www.seeed.cc/beaglebone_green